มั่นใจว่า นี่เป็นความรู้สึกของแฟนบอลชาวไทยที่รับรู้ ตอนหลัง "มาดามแป้ง" เผยความรู้สึกในใจล่าสุดที่ถูกถามจะสมัครเป็นนายกฯหรือไม่ ? อย่างไร ? ...ซึ่งคุณว่า "บางคืนก็พึงพอใจ บางคืนก็มีความคิดว่า เป็นกุนซือดีแล้ว แม้กระนั้นก็มีพี่น้องผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย หลายสมาพันธ์ โทรมาถามไถ่ว่า จะลงไหม ก็คงจะจำต้องขอเวลาลองคิดดูก่อน"

งานนี้บางทีอาจแปลความได้ว่า เจ้าตัวกำลังชั่งใจ มิได้ปิดโอกาสก้าวไปอีกขั้น โดยย้ำว่าเป็นคนภายในแวดวงฟุตบอลมา 17 ปี มีความตั้งอกตั้งใจ และก็พร้อมเสมอ มีแพสชั่นสำหรับในการปฏิบัติงานเพื่อกลุ่มชาติไทย แล้วก็มีความต้องการอยากพาบอลไทยไปบอลโลกให้เป็นประวัติศาสตร์ แม้กระนั้นทั้งผองถ้าจะต้องเป็นนายกฯ ก็จำเป็นต้องดูสภาพร่างกาย เพราะว่าแค่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลยังคงใช้พลังมากเช่นเดียวกัน

แน่นอนว่า แฟนๆที่ติดตามเชียร์บอลไทยรู้จักเธอแล้วก็เห็นด้วยนับถือในความรู้ ความรู้ความเข้าใจ ประสบการณ์ ความขยันทุ่มเทของ "หญิงแข็ง" ที่แวดวงบอลไทยดีว่า มาดามแป้ง คือเพศหญิงที่มีหัวใจรักบอลไทย ตัวจริง เสียงจริง

เส้นทางของ "มาดามแป้ง"ในแวดวงกีฬาหากย้อนไปมองจากวันนั้นที่เริ่มเป็นกุนซือกีฬาคนพิการ จนถึงนำทีมฟุตบอลหญิงกลุ่มชาติไทย ไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบท้ายที่สุดมาแล้วถึงสองยุค เป็นสิ่งที่ใช้พิสูจน์ความสามารถของนักธุรกิจสาว ที่ก้าวเข้ามาบริหารวงการบอลนั้นไม่ธรรมดา

เรียกว่า ถ้าเกิดจะหาใครบางคน เหมาะสมที่จะนำมาการพัฒนาทีมฟุตบอลชายกลุ่มชาติไทยให้ดียิ่งขึ้น ฟุตบอลไทย และล้ำหน้าไปด้านหน้า ทั้งจังหวะเป็นกลุ่มระดับชั้นนำของเอเชีย หรือไปบอลโลก คนๆนั้นว่ากันว่า ก็จำต้อง..เชื่อแป้ง

ตอนนี้ ถ้าเกิดมาดามแป้งลงต่อสู้จริง ก็จำเป็นต้องแข่งกับอีกสองคนแน่ๆป้ายประกาศตัวออกมาแล้ว คือ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกชมรมฯ แล้วก็ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกาลแผงหน้าทีมชาติไทยระดับตำนาน

การเลือกตั้งนายกสโมสรฟุตบอล จะมีขึ้นในปีหน้า 2567 เมื่อ "พล.ต.อ.สมตำแหน่ง พุ่มไม้จำพวกม่วง" นายกสโมสร คนปัจจุบันหมดวาระลง ยังมีในขณะที่ "มาดามแป้ง" จะตกผลึกความคิด ลงประกวดไหมลง ที่สำคัญ ด้วยเหตุว่าไม่ได้อยากจะเอาตัวไปอยู่ท่ามกลางการขัดกัน จำเป็นต้องคุยกับอีกทั้ง "บังยี" แล้วก็ "บิ๊กอ๊อด" รวมถึงคุยกับสมาคมด้วย และมีหลายเรื่องต้องคุยให้ขาด ในฐานะเป็นประธานสมาพันธ์ ซึ่งนี่ก็อาจจะต้องติดตามมองกันต่อไปว่า มาดามจะตกลงใจเช่นไร

ก่อนจะลุ้น "มาดามแป้ง"ไปถึงวันนั้นวันนี้..อย่างต่ำเพียงแค่มาดามคิดแฟนคลับก็กรี๊ดรอคอยแล้วจ้า!!

ลงคะแนนคราวนี้ พรรคพลังประชาเมืองของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์กาญจน์ หัวหน้า รวมทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ประสบความล้มเหลวดังที่ได้มุ่งมาดไว้ ได้ส.ส.มาเพียงแค่ 40 ที่นั่ง ส่วนหนึ่งส่วนใดนั้นเป็นเนื่องจากว่าเกิดปรากฏการณ์ "สึนามิสีส้ม" ที่ส่งผลกระทบไปทุกพรรค แต่ว่าอีกส่วนใดส่วนหนึ่งก็มาจากแนวนโยบายและก็การบริหารจัดแจงข้างในพรรคเอง

นอกเหนือจากส.ส.เขตชนิด "บ้านใหญ่" หรือพื้นที่จุดหมายในภาคต่างๆไม่เข้าเป้าดังหวังแล้ว กระแสพรรคก็ห่วย ทั่วราชอาณาจักรมีคนเลือก เพียงแค่ 537,625 คะแนน ทำให้มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปาร์ตี้ลิสต์เพียงคนเดียวเป็น"ลุงป้อม"

อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เกิดความแพ้พ่าย จนถึงคนในพรรคอดรนทนไม่ได้ จำเป็นต้องออกมาแฉคือ "ลูกกระสุน" ไม่ถึงมือจากที่ตกลงกันไว้

ผู้สมัครของพรรคคุณลุงๆทั้งสองพรรค ล้วนแจอปัญหาเดียวกัน เป็นเรื่องลูกปืนที่ว่าพร้อม ถึงเวลาจำเป็นจะต้องใช้กลับขัดลำกล้องซะงั้น !!

สำหรับเพื่อการลงคะแนนส.ส.เขตนั้น โดยชอบด้วยกฎหมายให้แต่ละคนใช้จ่ายได้ไม่เกิน 1,900,000 บาท หลักๆก็เป็นค่าสมัครรับลงคะแนน ค่าแรงงานแรงงาน จ้างผู้ช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ปิดป้ายโปรโมท แจกโบชัวร์ ค่าแรงทำของ ยกตัวอย่างเช่น เสื้อแจ๊กเก็ต หมวก และเสื้อยืด ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆค่าจัดทำป้าย เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่างๆค่าใช้จ่ายสำหรับในการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ค่าเช่ายานพาหนะ ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร เครื่องดื่มสำหรับผู้ช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งยังมีอีกต่างๆ

แน่นอนว่าผู้สมัครเกือบทุกคน เพื่อลงสมัครและก็จะต้องฝันถึงเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วาดวิมานว่าพรรคที่สังกัดได้ร่วมรัฐบาล เมื่อเงินทางพรรคยังมาไม่ถึง ก็ต้องยอมกัดฟันออกรายจ่ายไปก่อน ไม่มีก็จะต้องไปกู้หนี้ยืมสิน จำนำ จำนำ

วันก่อน มีผู้สมัคร "กลุ่มรักคุณลุงป้อม" นำโดย "คมอำนาจวาสนา มัชฌิมตระกูล" อดีตผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 7 จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชาชนรัฐ เป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อนผู้สมัครส.ส.ของพรรคที่เผชิญชะตาชีวิตเดียวกัน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์มิโด ย่านสะพานควาย เพื่อทวงหนี้ค่าครองชีพข้างหลังลงคะแนนที่พรรคว่าจะให้ แม้กระนั้นในที่สุดถูกเบี้ยวจาก "เสธ.ต" คนคุ้นเคยของ "คุณลุงป้อม" ก็เลยต้องการที่จะให้เสียงนี้ไปถึง "ลุงป้อม" จะได้ช่วยปรับแก้ แก้ไข

...ผมจำเป็นต้องขายวัวเป็นฟาร์ม ด้วยเหตุว่า "เสธ.ต" มาบอกว่า ช่วยเหลือๆแม้กระนั้นสุดท้ายก็ไม่ ครั้งนี้บกพร่องในหลายพื้นที่ทั้งยังภาคใต้ ภาคอีสาน "เสนาธิการต" เป็นคนจัดการหมด และก็ทำให้พรรคเสียหาย ผู้ที่สมัครถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง แต่ละคนได้เงินตามกรอบของกฎหมายอยู่แล้ว แต่โดนตัดศรีษะคิว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ใหญ่มาก ที่จริงแล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบเขต แล้วก็แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคจำต้องได้มากกว่านี้อีก แต่ว่านี่มันผิดพลาด...

เมื่อหัวข้อนี้ถึงหู "คุณลุงป้อม" พี่ใหญ่หัวหน้าพรรค ก็ส่ง"ผู้กองธรรมนัส" ร.อ.ธรรมนัส พระพรหมเผ่า ว่าที่ส.ส.พะเยา ไปจัดการทันที

ภายหลังที่พูดจาเสวนากัน "ผู้กองธรรมนัส" ก็พูดว่า ในขณะนี้ทราบกันดีอยู่แล้วแล้ว... ปัญหาเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการติดต่อประสานงานเข้าใจกันคลาดเคลื่อนในพื้นที่ ประเด็นการดำเนินการต่างๆจากนี้จะได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหากันรวมทั้งให้ความยุติธรรมกันต่อไป

ตอนที่ "คมอำนาจวาสนา มัชฌิมสกุล" ก็บอกด้วยเหมือนกันว่า ทุกคนก็รู้ๆกันอยู่ "ผู้กอง"พูดว่าจะนำเรื่องราวทั้งปวงไปรายงานหัวหน้าพรรค จากนี้จะคอยการประสานงานมา เพื่อแก้ไขร่วมกับคนแก่ในพรรคตามขั้นตอน รวมทั้งทุกคนยืนยันยังยกย่องรัก แล้วก็เชื่อมั่นในตัว "คุณลุงป้อม" อย่างเดิม

ว่ากันว่า เรื่องเงินๆทองคำๆที่มีปัญหานี้ อาจเกิดจากโค้งสุดท้ายก่อนออกเสียง ผลโพลหลายสำนักชี้ชัดว่า กระแสสีส้ม สีแดง มาแรงมากมาย คุณลุงๆเลยออกอาการถอดใจ แบบรู้ตัวทัน